Jack ma MOUs Signing Ceremony :: Smart Digital Hub :: Thailand

Jack ma MOUs Signing Ceremony :: Smart Digital Hub :: Thailand

สรุปโดย ดร.ธีรศานต์ @iczz สหัสสพาศน์

Jack Ma

“เมื่อก่อนเป็น Made in Usa Made in China Made in Thailand แต่จากนี้ไปจะเป็น Made in internet

เมื่อก่อนส่งของเป็นตู้คอนเทนเนอร์ จากนี้ไป การส่งของจะชิ้นเล็กลง กระจายการเข้าถึงได้มากขึ้น”

ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์

ยกระดับสมรรถภาพทางเศรษฐกิจ

เติบโตแบบ S curve

ยาก ดี มี จน ช่องว่างสูง

ประชาชนต้องการการเปลี่ยนแปลง เราจะช่วยเหลือเค้าอย่างไร

ใน 2 วัน ขายทุเรียน 60,000 order

มาในเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่ง

1. เศรษฐกิจฟื้นตัว 4% แน่นอน

2. มาในช่วงที่เราเร่ง Transform SME ของเรา ให้ SME ไทย ลืมตาอ้าปากให้ได้

ไม่ให้ย่ำอยู่กับที่ พัฒนาสินค้าขายสู่ตลาดโลก เถาเป่า วิลเลจของจีน

3. การท่องเที่ยว ทุกคนหวั่นไหว เพราะกลัวตกงาน เมื่อไทยมีข้อดีคือ service mind สวยงามและอาหารอร่อย เป็นพื้นฐานในการสร้างอาชีพ

สร้างโอกาสในการสร้างอาชีพของเค้า สร้างตัวตนของเค้า มี skill ในการสร้าง business model ใหม่ๆ ออกมา สร้างโอกาสด้วยตัวเราเอง จะไม่มีข้อจำกัดในการสร้างอนาคตข้างหน้า

สร้างความหวังให้คนรุ่นใหม่ที่มีความคิดบนพื้นฐานในโอกาสใหม่ๆ

Connect การคมนาคม และ Digital

ประเทศไทยไม่ได้ต้องการสบายคนเดียวและยังทำให้เพื่อนบ้านเราดีไปด้วย

เราเลือกท่านเป็นพาร์ทเนอร์ ไม่ใช่ท่านใหญ่ แต่เราเลือกท่านเพราะ Big heart มีจิตใจที่ทำเพื่อสังคม ไม่ใช่แต่ประเทศจีน และช่วยทุกคนบนโลก

ทุกอย่างนำไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นทุกประการ

Keyword of Jack Ma

ความสามารถในการแข่งขัน

โอกาส

ลุยไปในโอกาสที่เปิด

ขยันขันแข็ง

เอาจริงเอาจริง

มีแผน

ยกระดับความสามารถ

อดทน

ตีความหมาย โอกาส ไม่ใช่ภัยคุกคาม

ความกลัวไม่ใช่อุปสรรค แต่ต้องแปรเป็นความท้าทาย

นวัตกรรม

สร้างเป้าหมายรวม เพื่อเดินหน้าไปด้วยกัน

จับมือ เชื่อมโยง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

Luncheon Meeting

“แจ็ค หม่า” ประกาศแผนการลงทุนสร้างดิจิทัลฮับ ปักหมุดในอีอีซีพร้อมร่วมพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลขับเคลื่อนนโยบายประเทศไทย 4.0

พร้อมกันนี้ ในช่วงบ่ายวันนี้จะได้มีการลงนาม MOU ความร่วมมือ ของทั้ง 2 ฝ่าย โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ข้อสรุปความร่วมมือในโครงการหลักที่จะช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดิจิทัลและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 ดังต่อไปนี้

1) โครงการลงทุนสร้างศูนย์ Smart Digital Hub ใน พื้นที่ EEC โดยศูนย์ฯ นี้จะอาศัยเทคโนโลยีระดับโลกของอาลีบาบาในด้านการประมวลข้อมูลโลจิสติกส์เพื่อทำให้การขนส่งสินค้าระหว่างไทยกับจีน การขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนสู่ประเทศเพื่อนบ้าน (CLMV) และไปยังที่อื่นทั่วโลก ให้มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ ยังได้มีการประสานกับกรมศุลกากรในการยกระดับพิธีการทางศุลกากรให้เป็นระบบดิจิทัลด้วย ซึ่งการตั้งศูนย์ Smart Digital Hub นี้จะช่วยผลักดันให้เหล่าธุรกิจ Startup และ SME ไทยสามารถพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ๆ โดยอาศัยเทคโนโลยีดิจิทัลให้เข้าถึงตลาดทั่วโลกได้ รวมถึงจะเป็นศูนย์กลางการในการดำเนินกิจกรรมวิจัยพัฒนาดิจิทัลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสำนักงาน EEC จะเชื่อมประสาน Smart Digital Hub กับ เขตนวัตกรรมดิจิทัล หรือดิจิทัลพาร์ค (EECd) และเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EECi) ด้วย

2) โครงการความร่วมมือด้านการพัฒนาบุคลากรในด้านดิจิทัลและการส่งเสริมธุรกิจผ่าน E-Commerce ซึ่งอาลีบาบาจะร่วมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ในการพัฒนากลุ่มคนเก่งหรือดาวเด่นด้านดิจิทัล (Digital Talent) โดยอาลีบาบาได้เสนอให้วิทยาลัยธุรกิจอาลีบาบา หรือ Alibaba Business School (ABS) มาร่วมสนับสนุนการใช้ Platform E-Commerce โดยจะเชื่อมโยงกับสถาบันการศึกษาและภาคเอกชน ทั้งนี้ ภายใต้โครงการนี้ อาลีบาบาจะเปิดโอกาส ให้นักศึกษา นักวิจัย อาจารย์รวมถึงผู้ประกอบการไทยไปร่วมเข้าโครงการฝึกอบรมพัฒนาในด้านดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซให้มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง รวมทั้งสร้างเครือข่าย (Networking) กับดาวเด่นหรือ Talents ทั่วโลกที่ประเทศจีนอีกด้วย

3) โครงการร่วมส่งเสริมพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลอีคอมเมิร์ซสำหรับผู้ประกอบการ SME และ Startup ของไทย เพื่อยกระดับขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัลโดยเน้นให้ผู้ประกอบการมีความเข้าใจ ได้เรียนรู้และเสริมทักษะการใช้เทคโนโลยีไทยให้สามารถเข้าถึง Regional Global Value Chain โดยอาลีบาบาจะจัดทีมงานร่วมลงพื้นที่กับทีมงานของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยใช้เครือข่าย ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 สู่อนาคต (Industry Transformation Center: ITC) ในระดับภาคและจังหวัดของกระทรวงอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ทั้งนี้ ก็เพื่อให้สามารถพัฒนาและเข้าถึงผู้ประกอบการ SME และ ผู้ประกอบการ Startup ระดับชุมชนทั่วประเทศ

4) อาลีบาบา จะร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท) ในการจัดทำ Thailand Tourism Platform สำหรับประเทศไทยโดยเฉพาะเพื่อจัดกิจกรรมด้านการตลาดร่วมกันบนออนไลน์แพลทฟอร์มที่สามารถเชื่อมโยงกับสื่อและช่องทางต่างๆ ของ ททท. รวมทั้งจะร่วมมือกันในด้านการใช้ข้อมูลทางการท่องเที่ยว (Tourism Big Data) เพื่อเจาะลูกค้ากลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนร่วมมือกันส่งเสริมการท่องเที่ยวในไทยให้รองรับกับยุทธศาสตร์และแนวทางการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเมืองรองและการท่องเที่ยวในระดับชุมชนของรัฐบาล

5) กระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกับอาลีบาบาในการเปิดตัว Thai Rice Flagship Store บนเว็บไซต์ Tmall.com เพื่อสนับสนุนการขายข้าวไทยทางออนไลน์ในจีน ซึ่งจะช่วยผลักดันให้เกษตรกร ผู้ประกอบการและผู้ส่งออกข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าวสามารถเข้าถึงตลาด E-commerce ในจีนได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งสอดรับกับเทรนด์ในปัจจุบันที่สินค้าไทยกำลังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าเกษตรและอาหารของไทย

#TAT360

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น