#DNAjournal EP.6 #DNAbySPU[Small is beautiful … ยิ่งเล็กน้อยยิ่งงดงาม] :: คุณหนุ่ม อำนาจ รัตนมณี ผู้ก่อตั้งร้านหนังสือเดินทาง
.
.
อะไรคือแรงผลักดันให้คนบางคนทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้และเต็มไปด้วยความยากลำบาก ?
.
.
อะไรคือสิ่งที่ทำให้เรามีความมั่นใจในการตัดสินใจอะไรบางอย่าง มั่นใจจนเปล่งเสียงออกมาว่า “ฉันรู้ว่าการตัดสินใจของฉันถูกต้อง” ทั้งๆที่เราไม่สามารถอธิบายด้วยคำพูดให้คนอื่นทราบถึงเหตุผลได้ แต่เราก็ยังมั่นใจกับการตัดสินใจครั้งนั้น
.
.
และถึงแม้ว่าการตัดสินใจนั้นจะนำมาสู่ปัญหา แต่เรายินดีที่จะเผชิญกับปัญหาที่จะตามมา ถึงแม้ผลลัพธ์จะไม่ได้เป็นอย่างที่คาด เราก็พร้อมจะยืนรับฟังด้วยหัวใจที่สงบนึ่ง
.
.
หลักสูตร #DNAbySPU ได้รับเกียรติจากแขกรับเชิญสุดพิเศษ คุณหนุ่ม อำนาจ รัตนมณี ผู้ก่อตั้งร้านหนังสือเดินทาง และ 100 Idols บุคคลสาธารณะ โดย Aday 2551 ผู้มาปลุก Passion ให้ ‘เดินตามสิ่งที่เรารัก’ และสร้าง ‘ตำนาน’ เป็นของตัวเอง
.
.
คุณหนุ่มได้มาแชร์วิธีการปรับตัวกับสิ่งพิมพ์ออนไลน์สู่จุดรอดของธุรกิจ ที่ทำให้ร้านหนังสืออิสระของเขาสามารถเปิดให้บริการยืนหยัดอย่างมั่นคงมากว่า 16 ปี ทวนกระแสขาลงของร้านหนังสือในปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง
.
.
วิธีการนั้นเป็นวิธีการที่เรียบง่าย กระชับ ทรงพลังและสร้างแรงบันดาลใจ รวมถึงยังสอดคล้องกับปรัชญาการออกแบบงานศิลปะประเภทต่างๆ เช่น การออกแบบแฟชั่น ตกแต่งภายใน วิจิตรศิลป์ การประพันธ์เพลง และแนวทางการใช้ชีวิต
.
.
ปรัชญานั้นคือ “น้อยคือมาก” (Less is more) หรือการลงมือทำแบบน้อยแต่เน้น เริ่มต้นจากกระบวนการคิดหลายๆ รูปแบบ แล้วตัดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นออก ให้เหลือแค่ใจความสำคัญจริงๆ เท่านั้นเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด
.
.
สำนวน Less is more ปรากฏครั้งแรกในบทกวีของ Robert Browning กวีเอกชาวอังกฤษในศตวรรษที่ 19 ต่อมา Ludwig Mies Van Der Goh สถาปนิกชาวเยอรมัน ได้นำเอาสำนวน “Less is more” มาประยุกต์ใช้ในงานออกแบบอาคาร บนความเรียบง่ายแต่พิถีพิถัน สวยงามแต่ลุ่มลึกในความคิด จนกลายเป็นหัวใจหลักของการออกแบบศิลปะ และได้ถูกพัฒนาเป็น เทรนด์สไตล์มินิมอลในเวลาต่อมา
.
.
หากเปรียบเทียบกับสินค้าหรือบริการ หรือแม้แต่การออกแบบต่างๆ การทำผลงานออกมาอย่างเรียบง่ายและชัดเจน ลูกค้าจะสามารถถอดความได้ง่ายกว่าและเข้าใจได้มากกว่า ทำให้ผลงานนั้นดูโดดเด่นและเป็นที่ยอมรับ
.
.
แต่ก่อนที่เราจะไปสู่ปลายทางของปรัชญา Less is more เพื่อปรับใช้กับธุรกิจของเราได้ เราต้องผ่านจุดเริ่มต้นก่อน นั่นคือ ”ความชัดเจนว่าทำไมถึงทำ” (Why) เมื่อเราชัดเจนแล้ว เราจะรู้โดยอัตโนมัติว่าต้องทำอย่างไร (How) และต้องทำอะไรบ้างที่เพื่อไปสู่สิ่งที่ต้องการ (What)
.
.
สตรีชาวเคนยา ชื่อ ดร.วังการี มาไท (Dr. Wangari Maathai) ได้เดินทางไปทุกหมู่บ้านทั่วประเทศเคนยา เธอได้เรียนรู้ว่า หญิงชาวเคนยาใช้เวลามากขึ้นเป็นเวลาหลายชั่วโมงในการออกไปหาไม้ฟืนสำหรับหุงต้มอาหาร ด้วยความเป็นอยู่ที่ แร้นแค้น และขาดความรู้ด้านโภชนาการทำให้ชาวบ้านเกิดโรคขาดสารอาหาร และชาวบ้านขาดรายได้ลงอย่างสิ้นเชิง
.
.
เธอตระหนักว่า ต้นไม้มาจะช่วยแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากแร้นแค้นที่ชาวเคนยาประสบอยู่ เพราะ “ต้นไม้”จะทำให้พวกเขามีอาหารกิน มีสมุนไพรรักษาโรค ช่วยให้มีอาชีพ ดำรงชีพอยู่ได้การมีอยู่มีกิน และช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และในที่สุด….. ก็จะนำมาซึ่งความมั่นคงในชีวิตชาวแอฟริกา
.
.
เธอได้ริเริ่มจัดตั้งกลุ่ม “ขบวนการแนวร่วมสีเขียว” (Green Belt Movement) เพื่อรณรงค์ให้ชาวเคนยาปลูกต้นไม้คนละหนึ่งต้น เมื่อชาวเคนยาทุกคนพร้อมใจกันปลูกต้นไม้คนละต้น ประเทศเคนยาก็มีต้นไม้เพิ่มขึ้นมา 15 ล้านต้นในทันที
.
.
แน่นอนว่าผู้เชี่ยวชาญหลายต่อหลายคนในวงการต่างๆ พร้อมใจกันมอบสายตาที่เย็นชาและคำเยาะเย้ยให้แก่แนวคิดของเธอว่าต้องล้มเหลวอย่างแน่นอนเพราะเธอไม่มีงบประมาณโฆษณา ประชาสัมพันธ์อย่างมหาศาล ไม่เว้นแม้แต่ชาวบ้านที่เธอไปคุยด้วยว่าแนวคิดของเธอเป็นความคิดที่เพ้อฝันและโลกสวย เพราะตัวชาวบ้านเองแทบจะเอาชีวิตไม่รอดอยู่แล้ว
.
.
แต่เธอเลือกที่จะไม่สนใจเสียงและสายตาเหล่านั้นและเดินหน้าต่อไป
.
.
ต่อมาไม่นานขบวนการแนวร่วมสีเขียวสามารถปลูกต้นไม้ได้ถึง 30 ล้านต้น และกลายเป็น 45 ล้านต้นในเวลาต่อมา ปัจจุบันนี้ประเทศเคนยาจึงเขียวชะอุ่มปกคลุมไปด้วยต้นไม้ จะยังเหลือก็แต่เพียงในพื้นที่เขตทะเลทรายเท่านั้น
.
.
การคืนสภาพให้แก่ป่าเป็นการเปลี่ยนแปลงชีวิตที่สตรีชาวเคนยาจับต้องได้ ต้นไม้ทำให้พวกผู้หญิงมีไม้ฟืนสำหรับทำเป็นเชื้อเพลิงหุงต้มในครัวเรือน มีรั้วไว้ป้องกันบริเวณบ้านได้ ต้นไม้ยังเป็นแหล่งผลิตอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการให้แก่ทุกคน และทำให้พวกเธอมีโอกาสหารายได้มาจุนเจือครอบครัวอีกด้วย
.
.
เพราะเธอชัดเจนกับแนวคิดที่ว่า “ผืนดินที่มีต้นไม้อุดมสมบูรณ์ เป็นพื้นฐานที่ทำให้พวกเรามีชีวิตอยู่รอดได้” ทำให้ คณะกรรมการพิจารณารางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ ปี 2004 เห็นควรมอบรางวัลให้แก่ ดร.วังการี มาไท เป็นเป็นผู้หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของทวีปแอฟริกาที่ได้รับรางวัลโนเบล
.
.
คุณหนุ่มเริ่มต้นจากความรักในหนังสือ ด้วยความชัดเจนว่าทำไมถึงทำ (WHY) จึงเลือกเปิดร้านหนังสืออิสระในแนวที่ตัวเองถนัดและชื่นชอบ คุณหนุ่มจึงมีภูมิต้านทานที่จะฟังในเสียงวิพากวิจารณ์เชิงลบ คำบั่นทอน และคำสบประมาท หรือที่คุณหนุ่มเรียกว่า “สภาวะทดสอบจิต”
.
.
ในขั้นตอนการตกแต่งร้าน (How) คุณหนุ่มสมมติว่าถ้าเป็นนักอ่านคนหนึ่ง เดินเข้าไปในร้านหนังสือ บรรยากาศแบบไหนที่อยากได้ ก็เอาตรงนั้นเป็นจุดตั้งต้น คุณหนุ่มจึงตั้งใจให้บรรยากาศในร้านอบอุ่นและเป็นกันเองเหมือนห้องนั่งเล่นในบ้านที่พร้อมจะต้อนรับแขกอยู่เสมอ
.
.
ในขั้นตอนการเลือกหนังสือมาไว้ในร้าน (What) ก็จะเป็นหนังสือแนว “เดินทางและท่องเที่ยว” เพื่อสร้างภาพจำว่าเป็นร้านหนังสือที่ “เล็กแต่ลึก” แตกต่างจากร้านหนังสือยักษ์ใหญ่ที่ “มากและกว้าง” โดยสิ้นเชิง
.
.
ด้วยแนวคิดเล็กๆ นี้ “ร้านหนังสือเดินทาง” ร้านเล็กๆ ที่สร้างด้วยหัวใจที่ยิ่งใหญ่ จึงดึงดูดคนไทยและคนทั่วโลกที่รักในการเดินทางให้มาที่ร้านของคุณหนุ่ม ดึงดูดความสนใจจากสื่อระดับโลก และดึงดูดผู้บริหารของร้านหนังสือยักษ์ใหญ่ให้มาดูงานที่ร้านของคุณหนุ่ม
.
.
สำหรับผู้ประกอบการที่จะนำแนวคิดนี้ไปปรับใช้ ไม่จำเป็นต้องไปเรียนรู้จากที่ไหน ขอแค่ใช้เวลาอย่างสงบในการเริ่มต้นคุยกับตัวเอง ฟังเสียงหัวใจตนเอง ตอบตัวเองให้ได้ว่าทำไมถึงทำ (WHY)
.
.
แน่นอนว่าอาจจะยากซักหน่อย แต่คงไม่ยากเกินไป ที่จะหาคำตอบที่ก้องอยู่ในหัวใจตนเอง เมื่อได้คำตอบแล้วแล้วจึงเริ่มลงมือทำด้วยความปรารถนาอันแรงกล้านั้น และอย่าลืมเปิดใจต่อความล้มเหลวและความผิดพลาด เพื่อที่เราจะได้เริ่มใหม่ด้วยบทเรียนที่ได้เรียนรู้มา
.
.
แล้ววันหนี่งเราจะปลดล็อคธุรกิจที่เกือบจะสมบูรณ์แบบได้ และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในเส้นทางที่เราออกแบบเอง
.
.
อ้างอิง : หนังสือ the challenge for Africa ผู้เขียน Wangari Maathai /หนังสือ “ตั้งคำถามเพียง 1 ข้อ ก็พลิกจากตามขึ้นมานำ” (Start With Why) ผู้เขียน Simon Sinek / หนังสือ “ทำน้อยให้ได้มาก” (The Power of Less) ผู้เขียน Leo Babauta
.
.
หมายเหตุ :
1. #DNAjournal จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลการบรรยายของ Speaker ในหลักสูตร #DNAbySPU
2. ข้อมูล EP.6 ต่อยอดจากการบรรยาย ของคุณคุณหนุ่ม อำนาจ รัตนมณี ผู้ก่อตั้งร้านหนังสือเดินทาง และ 100 Idols บุคคลสาธารณะ โดย A day 2551 ผู้มาปลุก Passion ให้ ‘เดินตามสิ่งที่เรารัก’ และสร้าง ‘ตำนาน’ เป็นของตัวเอง #Speaker #DNAbySPU 25 March 2017
.
จัดทำโดย หลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage , Digital Business Management Department, Sripatum Business School, #SPU
www.DNAbySPU.com