#DNAjournal EP.3 #DNAbySPU
[Workpoint :: How to go from good to great :: เราจะไปสู่สิ่งที่ดีกว่าได้อย่างไร ในเมื่อสิ่งนั้นได้พัฒนาจนสุดทางแล้ว?]
คุณชลากรณ์ ปัญญาโฉม #Workpoint #TheMaskSinger
.
.
หลายครั้งที่เราพยายามสร้างสรรค์เส้นทางที่แตกต่าง เพื่อยกระดับจากสิ่งที่ดีอยู่แล้วไปสู่สิ่งที่ยอดเยี่ยม แต่ถึงแม้เราจะพยายามอย่างไร ใช้ทรัพยากรด้านเงินและเวลาเท่าไหร่ แต่บ่อยครั้งที่ผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ได้สร้างสิ่งใหม่ๆ ไม่โดดเด่น ถึงแม้อาจจะแตกต่างบ้างแต่เป็นแค่รายละเอียดและบริบทเท่านั้น แต่ก็ยังไม่ถือว่าแตกต่างอยู่ดี
.
.
ปัจจุบันในประเทศไทยมีรายการโทรทัศน์ประเภทมิวสิคโชว์อยู่มากมายหลายรายการ ถึงบริบททางด้านรูปแบบและรายละเอียดจะแตกต่างกัน แต่ก็มีรูปแบบที่แทบจะเหมือนกันทุกรายการ เหมือนกับจะเป็นการบอกผู้ชมชาวไทยว่ารายการประเภทมิวสิคโชว์นั้นได้พัฒนามาจนสุดทางแล้ว
.
.
แต่มีรายการมิวสิคโชว์อยู่รายการหนึ่ง ที่เต็มไปด้วยไอเดียที่กล้าหาญ กล้าฉีกกรอบไปสู่แนวคิดใหม่ นั่นคือรายการ The Mask Singer หน้ากากนักร้อง ซึ่งได้รูปแบบรายการมาจากรายการ King of Masked Singer จากประเทศเกาหลีใต้
.
.
หลังออกอากาศไปไม่นานรายการนี้ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น ทั้งด้านเรตติ้ง และกลายเป็น Talk of the town ไปทั่วบ้านทั่วเมือง จนเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) บริษัทผลิตสื่อบันเทิงยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย และเจ้าของสถานีโทรทัศน์ ระบบดิจิทัลช่องเวิร์คพอยท์ หมายเลข 23 มีเรตติ้งกระฉูด จนในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็แซงหน้าแชมป์เก่าช่อง 3 และ 7 ได้อย่างไม่น่าเชื่อ
.
.
หลักสูตร #DNAbySPU ได้เชิญ พี่กรณ์ คุณชลากรณ์ ปัญญาโฉม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานดิจิทัลทีวี บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) #Workpoint มาเล่าถึงสูตรสำเร็จในการสร้างสรรค์เส้นทางให้รายการ The Mask Singer หน้ากากนักร้องประสบความสำเร็จ
.
.
เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2532 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อผลิตรายการโทรทัศน์ และละครโทรทัศน์ที่มีคุณภาพ ประกอบด้วยสาระ และความบันเทิง เริ่มทำการผลิตรายการ เวทีทอง ทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 เป็นรายการแรกในปี พ.ศ. 2532 ต่อมาได้ขยายการผลิตรายการและละครประเภทต่างๆ หลากหลายรูปแบบ และหลากหลายสถานี เป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ มาโดยตลอด จนวันนี้ได้กลายเป็นของสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิทัลช่องเวิร์คพอยท์ หมายเลข 23
.
.
แน่นอน !! เราคาดหวังว่าจะได้รู้เคล็ดลับของรายการ The Mask Singer หน้ากากนักร้อง ว่ามีสูตรสำเร็จอย่างไร? มีกรรมวิธีแบบไหน? ต้องใช้ส่วนผสมอะไรบ้าง? แต่คำตอบของคุณกรณ์กลับเป็นคำตอบที่เรียบง่ายและทรงพลังกว่ามาก
.
.
เคล็ดลับความสำเร็จมีแค่สองอย่าง …ถูกต้อง…แค่สองอย่างเท่านั้น แต่สองอย่างนี้กลับสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับรายการประเภทมิวสิคโชว์ที่เหมือนจะพัฒนามาไกลจนสุดทาง ไม่สามารถพัฒนาไปต่อได้อีกแล้ว
.
.
เคล็ดลับข้อแรก เนื่องจากบริษัทฯ อยู่ในอุตสาหกรรมบันเทิงมาเป็นเวลา 28 ปี … 28 ปีเป็นเวลานานพอที่จะให้บริษัทฯ ได้วิวัฒนาการจนได้รับประสาทสัมผัสที่พิเศษ คือ มีสายตาที่จะเห็นข้อมูลพิเศษ ซึ่งข้อมูลพิเศษนั้นก็เป็นข้อมูลในรูปแบบตัวเลข ซึ่งช่องหรือรายการอื่นๆ ก็ได้รับเหมือนกัน ไม่แตกต่างอะไรเลย แต่ทางบริษัทฯได้มองว่าข้อมูลชุดเดียวกันนั้น เป็นข้อมูลที่บ่งบอกถึง “อารมณ์ของมนุษย์”
.
.
ผู้ชมชาวเกาหลีใต้และผู้ชมชาวไทย ถึงแม้จะชื่นชอบรายการประเภทมิวสิคโชว์เหมือนกัน แต่ว่ามีบริบทและรายละเอียดที่ไม่เหมือนกัน มีอารมณ์ความรู้สึกที่แตกต่างกัน การจะนำรายการจากประเทศนึงมาสู่อีกประเทศหนึ่งโดยไม่คำนึงถึงบริบทของผู้ชมในประเทศนั้นก็ดูจะเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมนัก
.
.
บริษัทฯ จึงได้ตีโจทย์ใหม่ โดยอ้างอิงจากข้อมูลตัวเลขเชิงสถิติที่ได้จากผู้ชมชาวไทยมา นำไปแปลงให้เป็น “อารมณ์ของมนุษย์” แล้วนำมาศึกษาในหลายๆ แง่มุม เพื่อจะได้สร้างสรรค์รายการที่ให้ผู้ชมชาวไทย “อิน” และ “ติดใจ” จนดูได้ไม่เบื่อ
.
.
ทางรายการจึงได้ลงมือออกแบบรายละเอียดใหม่ ให้ถูกจริตกับผู้ชมชาวไทยมากขึ้น ทำให้รายการนี้ถูกบรรจุความเป็นไทยอยู่ล้นปรี่ ทั้งความสนุกสนาน ความประทับใจ คุณภาพการถ่ายทำ การออกแบบชุดผู้เข้าแข่งขัน และการให้ผู้ชมได้เป็นส่วนหนึ่งของรายการ
.
.
รวมถึงการออกแบบช่องทางการรับชมให้ผู้ชมรับชมได้ง่ายที่สุดและสะดวกที่สุด ไม่ว่าจะทางโทรทัศน์ ดูสดบน Facebook Live สำหรับผู้ชมที่อยู่นอกบ้าน หรือการให้ดูย้อนหลังบน Youtube สำหรับผู้ชมที่กลัวการตกรถไฟที่ชื่อกระแส Social
.
.
เมื่อเนื้อหาของรายการนั้นดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่รายละเอียดที่ทางบริษัทฯ ผสมเข้าไปนั้นเป็นสิ่งที่ดียิ่งกว่า เมื่อสิ่งสองสิ่งที่ดีทั้งคู่มารวมกัน ก็ย่อมต้องเกิดผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมเป็นธรรมดา
.
.
เคล็ดลับที่สองคือทฤษฎี “กฎ 10,000 ชั่วโมง” ของ Malcolm Gladwell (มัลคอล์ม แกลดเวลล์) ซึ่งเป็นผู้เขียนหนังสือ Outliers ชื่อภาษาไทยคือ “สัมฤทธิ์พิศวง” Malcolm Gladwell ไม่เชื่อว่าการมีพรสวรรค์จะนำไปสู่ความสำเร็จ การฝึกฝนต่างหากที่จะนำพาไปสู่ความเป็นสุดยอด เขากล่าวว่า “เราทุกคนสามารถที่จะมีความเชี่ยวชาญในด้านใดด้านหนึ่งได้ หากเราใช้เวลากับมันอย่างต่ำ 10,000 ชั่วโมง 10,000 ชั่วโมงนี้ ไม่ได้หมายความว่าทำ 1 ชั่วโมงเเล้วนอนทับมันอีก 9,999 ชั่วโมง 10,000 ชั่วโมงนี้หมายความว่า คุณต้องทำมันให้ครบ 10,000 ชั่วโมง”
.
.
ตามกฎ 10,000 ชั่วโมง ถ้าฝึกวันละ 12 ชม. ใช้เวลา 833 วัน หรือ ประมาณ 2 ปี
.
.
เด็กหนุ่ม 4 คนจากเมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ มีความฝันจะเป็นวงร็อกแอนด์โรล จึงตั้งวงดนตรีเพื่อฝึกซ้อมดนตรีอย่างจริงจังในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1957 ด้วยฝีมือในการเล่นดนตรีที่โดดเด่น จึงมีโอกาสเล่นทั้งในเวทีเป็นทางการ เช่น งานแสดงดนตรีในเมืองลิเวอร์พูล และเวทีที่ไม่เป็นทางการ เช่น คลับระบำเปลื้องผ้าแห่งหนึ่งในฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมัน
.
.
วงของพวกเขาเล่นดนตรีสัปดาห์ละ 7 วัน แต่ละคืนมากกว่า 5 ชั่วโมงขึ้นไป ชั่วโมงบินของวงนี้จึงสูงลิ่ว ว่ากันว่า ตอนที่พวกเขาประสบความสำเร็จในปี ค.ศ. 1964 วงของพวกเขาฝึกซ้อมไปแล้วไม่ต่ำกว่า 10,000 ชั่วโมง ขณะที่วงดนตรีส่วนใหญ่ฝึกซ้อมไม่ถึง 2,000 ชั่วโมง
.
.
วงดนตรีวงนี้ เป็นที่รู้จักกันในชื่อ The Beatles (เดอะบีเทิลส์) ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางให้เป็นวงร็อกที่มีอิทธิพลที่สุดแห่งยุคและเป็นหนึ่งในวงที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด Time Magazine
ได้ใส่ชื่อพวกเขาในหัวข้อ “100 บุคคลที่มีอิทธิพลแห่งศตวรรษที่ 20 และเป็น “วงที่มียอดจำหน่ายสูงที่สุดในประวัติศาสตร์” ด้วยยอดจำหน่ายกว่า 600 ล้านก็อปปี้ทั่วโลก พวกเขายังได้ถูกบรรจุเข้าสู่หอเกียรติยศร็อกแอนด์โรล ในปี 1988
.
.
28 ปีที่บริษัทฯ ผลิตรายการประเภทต่างๆมาโดยตลอดตั้งแต่ เกมโชว์, ควิซโชว์, เรียลลิตี้โชว์, ทอล์กโชว์, เกมโชว์สำหรับเด็ก, ซิทคอม, รายการวันหยุดนักขัตฤกษ์, ละครโทรทัศน์เรื่องยาว, ละครเทิดพระเกียรติและสารคดีโทรทัศน์ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากผู้ชมทุกเพศ ทุกวัย และยังได้รับรางวัลในหลากหลายสาขา ทั้งในประเทศ และต่างประเทศมากมายนับไม่ถ้วน
.
.
28 ปีในอุตสาหกรรมแน่นอนว่าใช้เวลาเกิน 10,000 ชั่วโมงไปเรียบร้อยแล้ว… ไม่สิ ทะลุ 100,000 ขั่วโมงไปแล้วด้วยซ้ำ แต่บริษัทฯ ไม่ได้ผลิตตามสั่งเท่านั้น ยังเรียนรู้จากผลตอบรับอยู่ตลอด วิธีนี้ดี อย่างนี้ไม่เหมาะ ทำแบบนี้คนไม่ชอบ รับฟัง หรือเรียกง่ายๆ ว่า “Learning By Doing” จึงเป็นธรรมดาที่บริษัทจะ “เก่ง” ในการผลิตรายการโทรทัศน์ให้โดนใจคนดู ไม่เพียงแต่ผู้ชมชาวไทยในประเทศเท่านั้นแต่ไปถึงระดับโลก
.
.
ดังนั้นสิ่งเล็กๆ แค่สองสิ่งนี้แหละ ที่เป็น “เคล็ดลับความสำเร็จ” ที่จะสร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ ทั้งหมดมีแค่นั้นจริงๆ ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้นเลย
.
.
สำหรับผู้ประกอบการหน้าใหม่นั้น ถึงแม้จะยังทำไม่ถึง 10,000 ชั่วโมงตามกฎข้างต้น แต่เวลาไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย แค่ลงมือทำแค่สองอย่าง คือ “ทำอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง” และ “ฟังเสียงของกลุ่มเป้าหมายมากๆ” สองสิ่งนั้นจะทำให้เรามีมุมมองที่เปลี่ยนไปและมองโลกอย่างแตกต่าง สิ่งเล็กๆ นี้จะทำให้เรา “เข้าใจ” และ “ใส่ใจ” ในธุรกิจของเรา
.
.
และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเราไม่ต้องออกไปหาเคล็ดลับความสำเร็จหรอก เพราะเดี๋ยวความสำเร็จจะมาหาเราเอง…
อ้างอิง :: หนังสือ Outliers ผู้เขียน Malcolm Gladwell , http://workpointtv.com
หมายเหตุ ::
1. #DNAjournal จัดทำเพื่ออธิบายต่อยอดข้อมูลการบรรยายของ Speaker ในหลักสูตร #DNAbySPU
2. ข้อมูล EP.3 ต่อยอดจากการบรรยาย ของคุณชลากรณ์ ปัญญาโฉม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานดิจิทัลทีวี บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) #SurpriseSpeaker #DNAbySPU
18 March 2017
จัดทำโดย หลักสูตร #DNAbySPU :: Digital Network Advantage , Digital Business Management Department, Sripatum Business School, #SPU
www.DNAbySPU.com
ใช้ #DigitalMarketing เพื่อให้เกิดภาพจำ และเป็น DNA ของตัวเอง