-เรายังคงเด็กอยู่เสมอ-
ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดคนหนึ่งที่ต้องจากบ้านทึ่จังหวัดเพชรบุรีมาอยู่หอของโรงเรียนในกรุงเทพตั้งแต่ ป.2
ความรู้สึกเป็นยังไงเหรอครับ
โกรธป๋ามากครับ
รู้สึกว่าตอนนั้นที่บ้านทางฝั่งคุณแม่ไม่มีใครเห็นด้วยกับป๋าสักเท่าไหร่
เพราะ…กลัวผมจะลำบาก
แต่ด้วยที่ป๋ามีความเชื่อบางอย่าง และเพื่อนของป๋าที่เป็นสมาคมโรงงานไอศกรีมจากหลายจังหวัดทั่วประเทศ ส่งลูกมาเรียนที่นี่ทั้งหมด เพื่อให้ลูกๆเป็นเพื่อนกัน เหมือนรุ่นพ่อ
ในปี 2535 จนถึงปี 2540 ทุกวันอาทิตย์เช้า
ผมไม่ยอมตื่นลุกจากที่นอนและร้องไห้อ้อนแม่บนที่นอนเพราะว่าไม่อยากเข้าหอ
พาลจนถึงไม่ยอมเก็บของเข้าหอ
ส่วนน้องชายผมได้แต่มอง เพราะช่วยอะไรไม่ได้
จนแล้วจนรอด ผมก็ไม่รอด
ต้องเดินขึ้นรถที่ป๋าสตาร์ทรอ เพื่อพาเด็กขี้แงคนนี้ไปส่งเข้าหอ
ระหว่างทางจากจังหวัดเพชรบุรี ถึงโรงเรียนทิวไผ่งาม ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า
เป็น 2 ชั่วโมงที่ป๋าจะเล่าเรื่องต่างๆ ว่าที่โรงงานกำลังทำอะไรอยู่ ปัญหามีอะไร แก้ยังไง คนงานแต่ละคนลักษณะนิสัยเป็นอย่างไร ต้องพูดกับเค้าอย่างไร เพื่อนป๋าคนนั้นกำลังทำอะไร ดียังไง ป๋าอ่านหนังสืออะไรมา มีข่าวอะไรที่น่าสนใจในตอนนั้น
แต่เป็น 2 ชั่วโมงที่ผมนิ่งเงียบ ไม่พูดไม่จา
สมัยนั้นไม่มี Smart Phone ให้เล่น Line คุยกับคนอื่น เพื่อหนีสถานการณ์ตรงหน้าได้เหมือนสมัยนี้
ผมทำได้เพียงดูวิวข้างทาง… และหูฟังสิ่งที่ป๋าพูด
หลายคำที่ป๋าสอน ซึมซับมาโดยไม่รู้ตัวจนถึงวันนี้
พอรถแล่นมาถึงแยก 35 โบวล์
น้ำตาผมทะลักทันที
ร้องไห้ พูดประโยคเดิมๆ ย้ำๆ ซ้ำๆ ว่า
“ป๋า ไอซ์ขอกลับไปเรียนที่เพชรได้ไหม”
“ไอซ์ไม่อยากอยู่หอ”
“ไอซ์อยากกลับบ้าน”
วนอยู่อย่างนี้ ตลอด 5 ปี ทุกครั้งที่รถใกล้แยก 35 โบวจนถึงโรงเรียน
พอรถแล่นเข้าโรงเรียน ป๋าจะจอดรถข้างสระน้ำ ซึ่งเป็นล็อคที่สามารถมองเห็นได้ชัดจากระเบียงหอชั้น 7 พอดี
ป๋าพาผมขึ้นไปส่งบนหอชั้น 7 รอผมเก็บของเปลี่ยนชุดนอนจนเสร็จ ถึงจะลงกลับมาที่รถ
ส่วนผมจะยืนเกาะระเบียงหอ ตะโกนเรียก”ป๋า ป๋า ป๋า” พอรถถอยออก ผมจะวิ่งจากชั้น 7 ลงมาข้างล่าง เพื่อมาดูท้ายรถแล่นออกจากประตูโรงเรียน
ตอนนั้น เด็กหอ ห้ามใช้โทรศัพท์
ต้องรอช่วงมืด จะแอบลงมาตู้โทรศัพท์ โทรหาป๋า
พูดเรื่องต่างๆนานา ให้ป๋าฟัง จนเหรียญหมดโทรศัพท์ตัดไป
ป๋ามักเงียบ…เสมอ
การที่เงียบ แปลว่า ตอบแล้ว
ตอบว่า…ป๋ากำลังตั้งใจฟังผมอย่างตั้งใจ
บางครั้งที่ผมโกหกป๋า ผมว่าป๋ารู้ว่าผมโกหก แต่ไม่เคยขัด รอให้ผมพูดจนจบ
สุดท้ายป๋าถามกลับ “ความจริงในวันนี้เป็นอย่างไร”
จนทำให้ผมไม่เคยกล้าโกหกป๋าอีกเลย
เป็นความรู้สึกที่พิเศษมาก
ที่ในชีวิตมีคนที่คอยจะรับฟังเราเสมอ ในทุกเรื่องราว ไม่ว่าเราจะทำถูกหรือทำผิด และเตือนในเราแก้ไขในสิ่งที่ทำผิดลงไป ด้วยการยอมรับความจริง
คืนวันนี้ก็เช่นกัน
ผมโทรหาป๋า เล่าหลายเรื่องให้ป๋าฟัง
ป๋าเงียบ…เช่นเคย
การที่เงียบ แปลว่า ตอบแล้ว
ขอบคุณที่ป๋าคอยรับฟังอยู่เสมอ
ขอบคุณที่ป๋าสอนให้ลำบากด้วยตัวเองตั้งแต่เด็ก
ทำให้มีความอดทนเป็นพิเศษจนวันนี้
ขอบคุณที่ป๋ามีความเชื่อในวันนั้น
เราเป็นลูก
…เรายังคงเด็กอยู่เสมอ…
สำหรับพ่อแม่
สุขสันต์วันเด็กครับ
8 Jan 2016
Line id :: @iczzLecturer